สำหรับ ChatGPT เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเลียนแบบบทสนทนาของมนุษย์ ซึ่งมีระบบการทำงานที่ขึ้นอยู่กับการโต้ตอบของผู้ใช้งาน นับว่าเป็นเทคโนโลยีหน้าใหม่ที่มีกระแสตอบรับอย่างดีเลยทีเดียว โดยได้รับการยืนยันแล้วจาก แซม อัลต์แมน ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งและ CEO ของ OpenAi ออกมาระบุว่า ในขณะนี้มีผู้ใช้งาน ChatGPT ไปแล้วกว่าหนึ่งล้านคนหลังแชทบอทดังกล่าวเปิดตัวได้หนึ่งสัปดาห์นั่นเอง

และเมื่อไม่นานมานี้แหล่งข่าวจากทาง Microsoft หลายรายก็ให้ความเห็นตรงกันว่า Microsoft มีความสนใจที่จะนำ ChatGPT ไปไว้ในผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในอนาคตยิ่งขึ้น เช่น Microsoft Office ในอนาคตจะนำ ChatGPT เข้ามาช่วยในการทำงานให้สะดวกสบายมากขึ้น!!

แต่…เดี๋ยวก่อน!! หากใครที่กำลังสนใจหรือเข้าไปใช้งาน ChatGPT โปรดระวัง!! เนื่องจาก ChatGPT มีให้ใช้งานผ่านเว็บไซต์ OpenAI.com เท่านั้น ยังไม่มีในรูปแบบแอปพลิเคชัน สามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ >> ระวัง! ChatGPTปลอม

ฉะนั้นบทความนี้เราจึงได้รวบรวมข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจของ Ai ไฟแรงอย่าง ChatGPT มาฝากกันครับ ว่าเป็นอย่างไร มีประโยชน์อย่างไร ไปวิเคราะห์กันเลยครับ!!

1. เอไอ ChatGPT ทำงานอย่างไร : สำหรับ ChatGPT นั้น OpenAI ได้ออกมาระบุว่า ChatGPT นั้นถูกฝึกให้ใช้เทคนิคเรียนรู้ด้วยตนเองที่เรียกว่า Reinforcement Learning from Human Feedback หรือ RLHF

โดย ChatGPT ที่ถูกพัฒนาในขั้นต้น มีการใช้มนุษย์ฝึกฝนบทสนทนากับ AI ตัวนี้ โดยให้มนุษย์รับบทสนทนาเป็นทั้งผู้ใช้งานและช่วย AI

ซึ่งการทำงานของ ChatGPT สามารถลอกเลียนบทสนทนา ตอบคำถามต่อเนื่อง ยอมรับข้อผิดพลาด ท้าทายข้อสังเกตที่ผิด และปฏิเสธคำขอที่ไม่เหมาะสมได้

อย่างไรก็ตาม ChatGPT เวอร์ชันที่เปิดให้ใช้งานในสาธารณะนั้น ในขณะนี้กำลังมีการพัฒนาและเรียนรู้เข้าใจคำถามจากผู้ใช้งาน และตอบคำถามเชิงลึกที่มีลักษณะคล้ายกับข้อความเชิงบทสนทนาที่มนุษย์เขียนขึ้นนั่นเอง

2. ChatGPT สามารถทำอะไรได้บ้าง : ChatGPT มีความสามารถตอบคำถามได้หลากหลาย ซึ่งเลียนแบบลักษณะการพูดของมนุษย์ได้ในเวลาเดียวกันที่ได้รับความนิยมอยู่ในขณะนี้ อีกทั้ง ChatGPT ยังสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น 

1. ช่วยแก้จุดบกพร่องของโค้ดเขียนโปรแกรมได้
2. ช่วยตอบคำถามลูกค้าได้
3. ช่วยสร้างเนื้อหาออนไลน์
4. ด้านการตลาดดิจิทัล

3. ChatGPT จะสร้างปัญหาหรือไม่ : หากถามว่า ChatGPT นั้นมีปัญหาอะไรบ้าง ต้องขอบอกไว้ก่อนว่าเทคโนโลยี ChatGPT เป็นเทคโนโลยีที่พึ่งเปิดตัวใหม่ ฉะนั้นอาจทำให้ด้านประสบการณ์ของผู้ใช้ ที่ตอบสนองผู้ใช้งานด้วยคำตอบที่ "ฟังดูมีเหตุผล แต่ไม่ถูกต้อง" ดังนั้นนี่จึงเป็นความท้าทายที่บริษัทต้องแก้ไขต่อไป

อีกทั้งเทคโนโลยี Ai นี้อาจส่งผลไปถึงเรื่องของความละเอียดอ่อน ที่อาจเผยแพร่อคติทางสังคมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านวัฒนธรรม เชื้อชาติ เพศ และอื่นๆ 

โดยก่อนหน้านี้บริษัทเทคโนโลยีอันดับต้นๆ ของโลกอย่าง Google และ Amazon ได้ออกมายอมรับว่าโครงการบางอย่างที่ทางบริษัททดลองใช้ Ai มีข้อจำกัดบางประการ และมีความเสี่ยงทางด้านจริยธรรม ซึ่งหลายบริษัทต้องให้มนุษย์เข้ามาจัดการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นจาก Ai นั่นเอง

4. OpenAI? เป็นบริษัทเกี่ยวกับอะไร ใครเป็นเจ้าของ : สำหรับบริษัทวิจัยและพัฒนา OpenAI นั้นถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2015 ในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร โดย แซม อัลต์แมน ซึ่งเป็นนักลงทุนในซิลิคอนแวลลีย์ และอิลอน มัสก์ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทรถไฟฟ้าเทสลา 

แต่ไม่เพียงเท่านั้น OpenAI ยังสามารถดึงดูดนักลงทุนได้อีกหลายราย ไม่ว่าจะเป็น ปีเตอร์ ธีล ซึ่งเป็นนักลงทุนสตาร์ทอัปรายใหญ่ 

หลังจากถูกก่อตั้งในฐานะองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรในปี 2015 ได้ไม่นาน ต่อมาในปี 2019 ด้านกลุ่มผู้ก่อตั้ง OpenAI ได้จัดตั้งองค์กรแบบแสวงหาผลประโยชน์เพื่อหาเงินลงทุนจากภายนอกเพิ่มเติม!! 

หลังจากนั้น OpenAI ได้รับความสนใจเป็นอย่างสูง มัสก์จึงได้ออกมาทวีตโดยให้ความเห็นว่า "เจ้า AI ตัวนี้ดีจนน่ากลัว และยังได้ทวีตข้อความต่ออีกว่า เขาเองได้ระงับไม่ให้ OpenAI เข้าถึงฐานข้อมูลของทวิตเตอร์ชั่วคราว หลังทราบว่าบริษัท OpenAI ใช้ทวิตเตอร์เพื่อฝึกฝนเครื่องมือ AI ของตน"

อย่างไรก็ตาม มัสก์เองได้ออกจากคณะกรรมการบริหารของบริษัทเมื่อปี 2018 และเข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ เมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมานั่นเอง

ทั้งนี้งานวิจัย Ai ยังคงเป็นสิ่งที่น่าสนใจสำหรับนักลงทุน เช่น มีข้อมูลจากบริษัทติดตามเงินทุน PitchBook ได้ออกมาเผยว่า....

"เมื่อปีที่แล้ว จำนวนเม็ดเงินร่วมลงทุนเพื่อพัฒนา AI และการลงทุนในบรรดาบริษัทปฏิบัติการ AI เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 13,000 ล้านดอลลาร์ อีกทั้งการลงทุนตั้งแต่เดือนม.ค.-ต.ค. ปีนี้ อยู่ที่ 6,000 ล้านดอลลาร์"

หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย ที่จะสามารถสร้างไอเดียให้ผู้อ่านสามารถนำไปต่อยอดในการสร้างเทคโนโลยีที่เกิดประโยชน์ต่อสังคมได้ครับ

 

 

--Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก : th.wikipedia.org / รอยเตอร์ / voathai.com