การเลือกปลั๊กอิน WordPress ที่เหมาะสมนั้นสำคัญมาก เพราะจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและฟังก์ชันการทำงานของเว็บไซต์ได้อย่างมากมาย แต่จะมีปลั๊กอินตัวไหนบ้างที่ถือว่าจำเป็นต้องติดตั้ง แต่การติดตั้งปลั๊กอินมากเกินไปอาจทำให้เว็บไซต์ทำงานช้าลงได้ ควรเลือกติดตั้งเฉพาะปลั๊กอินที่จำเป็นต่อการใช้งานจริงเท่านั้น 

1.Yoast SEO ปลั๊กอินสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพของ SEO
ปลั๊กอินนี้ช่วยให้ปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหา (SEO) ได้อย่างง่ายดาย ตั้งแต่การกำหนดคำหลัก (Keyword) การปรับปรุงโครงสร้าง URL ไปจนถึงการเขียน Meta Description ที่น่าสนใจ
ช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google ได้ดีขึ้น ทำให้มีคนเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น
2.WP Rocket ปลั๊กอินสำคัญที่ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็ว
เร่งความเร็วเว็บไซต์ให้โหลดไว ค่อนข้างเสถียรกว่าปลั๊กอินตัวอื่น ๆ ในเรื่องของการจัดการความเร็วเว็บไซต์ และรูปภาพ หรือไฟล์มีเดียต่าง ๆ เป็นที่นิยมสำหรับผู้พัฒนาเว็บไซต์ 
ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์เป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งานและอันดับในการค้นหา Google ปลั๊กอินนี้ช่วยให้เว็บไซต์โหลดได้เร็วขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
ช่วยลดอัตราการเด้งกลับ หรือ (Bounce Rate) เพิ่มเวลาที่ผู้ใช้งานอยู่บนเว็บไซต์ และปรับปรุงประสบการณ์การใช้งานโดยรวมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
3.Elementor สร้างหน้าเว็บได้อย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องเขียนโค๊ด 
ต้องการสร้างหน้า Landing Page หรือหน้าเว็บที่มีรูปแบบเฉพาะตัว Elementor จะเป็นตัวช่วยที่ดีเยี่ยมในการออกแบบหน้าเว็บแบบ Drag and Drop ได้อย่างง่ายดายโดยไม่ต้องเขียนโค้ด ใช้จัดวางสัดส่วน Layout หรือส่วนต่างๆ ของหน้าเว็บได้อย่างง่ายดาย เป็นเครื่องมือที่สะดวกมากๆ สำหรับคนที่เริ่มต้นทำเว็บไซต์ ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการออกแบบหน้าเว็บ ทำให้เว็บไซต์ดูโดดเด่นและน่าสนใจมากขึ้น
4. Contact Form 7 สร้างฟอร์มติดต่อได้ง่าย
ปลั๊กอินนี้ช่วยให้สร้างฟอร์มติดต่อต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย เช่น ฟอร์มสมัครสมาชิก ฟอร์มสอบถามข้อมูล เป็นต้น อำนวยความสะดวกในการติดต่อสื่อสารกับผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์
5. UpdraftPlus สำรองข้อมูลเว็บไซต์อย่างปลอดภัย
การสำรองข้อมูลเว็บไซต์เป็นสิ่งสำคัญมาก เพื่อป้องกันข้อมูลสูญหายในกรณีที่เกิดปัญหาต่างๆ ปลั๊กอินนี้ช่วยให้สำรองข้อมูลเว็บไซต์ได้อย่างง่ายดายและอัตโนมัติ สามารถกู้คืนข้อมูลเว็บไซต์กลับมาได้ในกรณีที่จำเป็น

ปัจจัยในเลือกปลั๊กอิน

-ความต้องการของเว็บไซต์ เลือกปลั๊กอินที่ตอบโจทย์ความต้องการในการใช้งานของเว็บไซต์ 
-ตรวจสอบให้แน่ใจว่าปลั๊กอินที่เลือกใช้งานได้กับธีมและเวอร์ชัน WordPress ที่ใช้งานอยู่ เข้ากันได้กับเว็บไซต์ไหม 
-ปลั๊กอินที่มีผู้ใช้งานจำนวนมากมักจะมีความเสถียรและได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง
-ตรวจสอบว่าผู้พัฒนาปลั๊กอินยังคงทำการอัปเดตปลั๊กอินอยู่เป็นประจำ

สรุป

ทั้งหมดเป็นเพียง 5 ปลั๊กอินที่แนะนำเท่านั้น ยังมีปลั๊กอินอื่นๆ อีกมากมายที่น่าสนใจและเหมาะสมกับความต้องการของเว็บไซต์ ควรเลือกปลั๊กอินให้เมาะกับการใช้งาน จะได้ทำให้เว็บไซต์มีประสิทธิภาพมากที่สุด

---Wynnsoft Solution รับทำเว็บไซต์ รับทำ SEO รับทำการตลาดออนไลน์ รับทำโฆษณา Facebook รับทำเว็บไซต์ ขอนแก่น และรับทำเว็บไซต์ทั่วประเทศ—

ข้อมูลจาก: นักเขียนนิรนาม